บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2555 รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของฐานลูกค้าและการขยายบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช บริการบรอดแบนด์ อัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต ของทรูออนไลน์ และบริการคอนเทนต์คุณภาพจากทรูวิชั่นส์

ในไตรมาส 3 ปี 2555 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 15.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่จากรายได้ที่เติบโตเป็นที่น่าพอใจของทรูมูฟ เอช ซึ่งลูกค้ามีการใช้บริการข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปของกลุ่มทรูออนไลน์ ซึ่งยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอัตราร้อยละ 18.3 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายบริการ 3G+ และการทำตลาดในเชิงรุกของกลุ่มทรูโมบาย และทรูวิชั่นส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า ทำให้กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ของกลุ่มทรู ในไตรมาส 3 ปี 2555 ลดลงร้อยละ 7.3 และ 13.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส
ที่ผ่านมาและกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าตามลำดับ โดยในไตรมาส 3 ปี 2555 กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 1.8 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ขาดทุน 1.4 พันล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “กลุ่มทรูยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการสื่อสารครบวงจรด้วยยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 3 กลุ่มทรู
ได้ขยายความครอบคลุมของบริการ 3G+ และบริการบรอดแบนด์ ด้วยเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มีการขยายบริการแบบ Triple-play สมบูรณ์แบบ ด้วยการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมบริการโทรศัพท์บ้านยุคใหม่แบบไม่มีรายเดือน และรับชมช่องบันเทิงจากทรูวิชั่นส์ สิ่งเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้รายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรูเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยังสร้างความเติบโตอย่างมั่นคงให้กับองค์กรอีกด้วย โดยความสำเร็จจากการประมูลคลื่น 3จี ย่านความถี่ 2.1 GHz ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทรูโมบายนอกเหนือจากการให้บริการ 3จีบน คลื่นความถี่ 850 MHz
ของ กสท. นอกจากนี้ทรูวิชั่นส์ยังได้รับผลตอบรับที่ดีจากการเปลี่ยนระบบออกอากาศใหม่ในกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้า            ทำให้มียอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นถึงกว่า 190,000 ราย ในไตรมาส 3”  

กลุ่มทรูโมบาย มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 7.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอัตราร้อยละ 12.7 จากไตรมาส 3 ปี 2554 สืบเนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช และบริการโมบาย อินเทอร์เน็ตซึ่งเติบโตสูงถึงร้อยละ 128.6 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ในไตรมาสนี้ กลุ่มทรูได้เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ราคาถูกพร้อมกับแพ็กเกจที่น่าดึงดูดใจเพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการ 3จี ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการสนับสนุน
การเติบโตของฐานลูกค้าทรูมูฟ เอช อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรวมกว่า 2.5 ล้านราย และกลุ่มทรูโมบายมีผู้ใช้บริการโดยรวมทั้งสิ้นกว่า 20.3 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2555

ทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการ 7.0 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากไตรมาสที่ผ่านมา จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริการ อัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต ภายในไตรมาส 3 ทรูออนไลน์ปรับเพิ่มความเร็วมาตรฐานของบริการบรอดแบนด์จาก 7 Mbps เป็น 10 Mbps และออกแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์แบบ triple-play ซึ่งให้บริการอินเทอร์เน็ต คุณภาพสูง บริการโทรศัพท์บ้านไม่มีรายเดือน และการรับชมช่องบันเทิงจากทรูวิชั่นส์ บนโครงข่ายเดียวกัน นอกจากนี้การขยายบริการอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ผ่านเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ยังช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส ทรูออนไลน์มีจำนวนยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.5 ล้านราย โดยมีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิทั้งสิ้นกว่า 55,000 ราย

ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 และ 6.3 จากไตรมาสที่ผ่านมาและไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าโฆษณา ผลตอบรับที่ดีของรายการทรู อคาเดมี แฟนเทเซีย 9 และการเปิดตัวของรายการใหม่ เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ผ่านไทยทีวีสีช่อง3 ทรูวิชั่นส์
มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิทั้งสิ้นกว่า 190,000 ราย ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2555 ทรูวิชั่นส์มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 1.8 ล้านราย โดยจำนวนผู้ใช้บริการแพ็กเกจพรีเมี่ยมปรับเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจในครึ่งหลังของไตรมาสภายหลังการเปลี่ยนระบบออกอากาศใหม่ ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตร
กลุ่มต่างๆ ในธุรกิจทีวี เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงช่องรายการคุณภาพได้มากขึ้น และจะช่วยขยายฐานลูกค้า และรายได้จากค่าโฆษณาให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย

นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “ความสำเร็จจากการออกหุ้นกู้จำนวน 6 พันล้านบาทในต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ช่วยเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจภายในกลุ่มทรูในอนาคต โดยบริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่า การลงทุนในธุรกิจหลักที่มีการเติบโตสูงทั้ง บริการ 3จี ของทรูมูฟ เอช และอัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต บนเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 จะเป็นปัจจัยสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการเงินของบริษัทฯ ในระยะยาว และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มทรู”