ทรูรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2554รายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของทรูออนไลน์และทรูมูฟรวมทั้งรายได้จากทรูมูฟ เอช
เมื่อเร็วๆนี้ – บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำ ไตรมาส 3 ปี 2554 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเติบโตแข็งแกร่ง ทรูออนไลน์มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง และยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ใหม่สุทธิเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะรายได้กลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย เพิ่มขึ้นจากรายได้และผลประกอบการที่ดีของทรูมูฟ การเปิดให้บริการทรูมูฟ เอช อย่างเป็นทางการ และการรวมผลประกอบการของฮัทช์ รวมทั้ง รายได้จากการรับทำการโฆษณาของทรูวิชั่นส์เติบโตแข็งแกร่งจาก ไตรมาสที่ผ่านมา
ในไตรมาส 3 ปี 2554 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย หรือ IC) 14.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้จากบริการบรอดแบนด์ และกลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย หรือกลุ่มทรูโมบายล์ อย่างไรก็ตาม กลุ่ม ทรูมีกำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA 4.3 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อย (ร้อยละ 0.8) จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการเปิดตัวบริการทรูมูฟ เอช
ผลการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ปรับลดลงเป็นขาดทุน 550 ล้านบาท จาก EBITDA ที่ลดลงและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1.4 พันล้านบาท รวมผล ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น 671 ล้านบาท ในการแปลงค่าหนี้สินต่างประเทศเป็นเงินไทย (Mark to Market) ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวด
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “การเติบโตอย่าง แข็งแกร่งของรายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรู ในไตรมาส 3 แสดงถึงความสำเร็จของยุทธศาสตร์ การเป็นผู้นำบริการบรอดแบนด์ทั้งบนโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งนี้ ทรูออนไลน์ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป ด้วยการเปิดบริการมาตรฐานความเร็วใหม่ที่ให้ความคุ้มค่า สูงสุดในตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มยอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิอย่างมาก รวมถึงการเปิดตัวบริการ Ultra Wi-Fi ความเร็ว สูงสุด 100 Mbps ขณะที่รายได้บริการที่ไม่ใช่เสียง ของทรูมูฟทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงินเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายข้อมูล รวมทั้งยอดขายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยผลักดันให้ปริมาณการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น”
“ความได้เปรียบจากการก้าวเป็นผู้ให้บริการ 3G รายแรกในไทยของกลุ่มทรูโมบายล์ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังเปิดบริการ 3G+ อย่างเป็นทางการภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ เอช ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งแคมเปญ FREEYOU ได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี และคาดว่าการขยายบริการทรูมูฟ เอช ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จะช่วยเร่งการขยายฐานลูกค้าให้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
สำหรับทรูวิชั่นส์ รายได้จากการรับทำการโฆษณาในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากความทุ่มเทของ ทีมขายใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญ ขณะที่กระแสความนิยมในรายการทรู อคาเดมี แฟนเทเซีย 8 เป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มรายได้จากบริการของทรูวิชั่นส์ในไตรมาสนี้” นายศุภชัยกล่าว
กลุ่มทรูโมบายล์ ประกอบด้วย ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ มีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่า IC จำนวน 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทรูมูฟ รายได้ที่เพิ่มขึ้นใหม่จากทรูมูฟ เอช และการรวมผลประกอบการของฮัทช์
ทรูมูฟ มีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่า IC จำนวน 6.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 จากไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า จากการฟื้นตัวต่อเนื่องของบริการเสียงจากบริการแบบเติมเงิน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นผลจากการขยายโครงข่าย (ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโปรโมชั่นใหม่ๆ ที่เปิดตัว ในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริการที่ไม่ใช่เสียง ทั้งจากบริการแบบเติมเงิน และแบบรายเดือน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.5 และ ร้อยละ 101 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา ตามลำดับ)
ในไตรมาส 3 ปี 2554 ทรูมูฟและทรูมูฟ เอช มียอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิรวมทั้งสิ้น 236,000 ราย ซึ่งทำให้จำนวนผู้ใช้บริการรวมของกลุ่มทรูโมบายล์เพิ่มขึ้นเป็น 18.6 ล้านราย
ทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการ 6.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา เป็นผลจากความสำเร็จของแคมเปญใหม่ Ultra hi-speed Internet (ความเร็ว 7-100 Mbps) การเปิดบริการ Wi-Fi ความเร็ว 8 Mbps และบริการ Ultra Wi-Fi (ความเร็ว 100 Mbps) รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ
บรอดแบนด์ เทคโนโลยี DOCSIS 3.0 จากการขยายโครงข่ายครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 6 จังหวัด รวมพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 16 จังหวัด โดยในไตรมาสนี้ ทรูออนไลน์สามารถเพิ่มยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิได้ถึง 47,000 ราย ทำให้มีจำนวนลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านราย
ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา และไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ จากความสำเร็จของรายการทรูอคาเดมี แฟนเทเซีย 8 และรายได้จากการรับทำการโฆษณาจำนวน 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.7 จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการเพิ่ม กิจกรรมส่งเสริมการขายของทีมขายที่มีความชำนาญงาน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการแข่งขันและการลักลอบใช้สัญญาณ ทำให้ทรูวิชั่นส์มีจำนวนผู้ใช้บริการลดลงเล็กน้อยเป็น 1.68 ล้านรายในไตรมาสนี้
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2554 บริษัทชำระคืนหนี้ระยะยาว ทั้งสิ้น 3.8 พันล้านบาท (ไม่รวมสัญญาเช่าการเงิน) และมีหนี้สินระยะยาวเพิ่มขึ้นทั้งสิ้นประมาณ 11.1 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ของทรูออนไลน์และกลุ่มทรูโมบายล์ รวมทั้งเพื่อขยายธุรกิจ โดยเฉพาะบริการ Ultra hi-speed Internet และ 3G นอกจากนี้ กลุ่ม ทรูโมบายล์ยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสินเชื่อระยะยาวจำนวนทั้งสิ้น 48.9 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งใช้เพื่อซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ของทรูมูฟในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “แม้บริษัทจะมีหนี้สินระยะยาวเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เพื่อลงทุนในธุรกิจหลักที่มีการเติบโตสูง ทั้ง ทรูมูฟ เอช และ Ultra hi-speed Internet บนเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 อย่างไรก็ตามธุรกิจดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสนับสนุนกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ในการขยายฐานลูกค้าระดับบน และเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว ทั้งนี้ การซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ของทรูมูฟ ช่วยให้สถานภาพทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ ลดความเสี่ยงทางการเงินและความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน”