ทรูมูฟแจ้งความตำรวจกองปราบปราม

ดำเนินคดี ดีแทค  ซึ่งมีบริษัทรัฐวิสาหกิจต่างประเทศเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำผิดกฎหมายไทย

วันนี้ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้ยื่นแจ้งความตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับดีแทค ซึ่งมีเทเลนอร์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจต่างประเทศเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบธุรกิจโทรคมนาคม ฝ่าฝืนกฎหมายไทย เรียกร้องตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบ หวังศาลชี้ชัดเรื่องสัญชาติ มีหลักฐานจากรายงานผลการพิจารณา เรื่องร้องเรียน กรณีปัญหาการถือหุ้น การครอบงำกิจการและการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยคนต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมของคณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร  ประกาศ ณ วันที่ 21 เมษายน 2554 พบบริษัท  โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) เป็น คนต่างด้าว ตามกฎหมาย เนื่องจากมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นโดยคนไทยร้อยละ 28.65 และมีคนต่างด้าวถือหุ้นมากถึงร้อยละ 71.35 โดยกระจายการถือหุ้นให้กลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัทต่างๆ จำนวนมากเป็นผู้ถือหุ้นแทน 

 

บริษัท ทรู มูฟ จำกัด มอบหมายให้ นางศุภสรณ์  โหรชัยยะ เป็นตัวแทน เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) และกลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัทที่มีพฤติกรรมสนับสนุน คนต่างด้าว คือ ดีแทค ที่เป็นนิติบุคคลให้สามารถทำธุรกิจ โทรคมนาคมที่เป็นธุรกิจต้องห้ามของต่างด้าวได้ โดยหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏในรายงานผลการพิจารณา เรื่องร้องเรียน กรณีปัญหาการถือหุ้นการครอบงำกิจการและการถือกรรมสิทธิ์ในทีดินโดยคนต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมของคณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร  ประกาศ ณ วันที่ 21 เมษายน 2554 ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการสาธารณูปโภคและการให้บริการสาธารณชนทั่วประเทศ รวมทั้งเกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ซึ่งเป็นทรัพยากรและความมั่นคงของประเทศ ป้องกันการครอบงำของต่างประเทศ ไม่ให้ถือหุ้นเกินร้อยละ 49 

 

นางศุภสรณ์  โหรชัยยะ ตัวแทนทรู มูฟ  เปิดเผยว่า  บริษัทพร้อมต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ  แต่ต้องเข้ามาลงทุนอย่างจริงใจ โปร่งใส และเปิดเผยข้อมูลชัดเจน และเนื่องจากดีแทคมีผู้ถือหุ้น คือเทเลนอร์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจต่างประเทศ  จึงจำเป็นต้องแสดงตนให้ชัดเจนที่จะเข้ามาทำธุรกิจโทรคมนาคมในไทย ซึ่งเป็นธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว มิใช่กระจายการถือหุ้นให้กลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัทต่างๆ จำนวนมากเป็น
ผู้ถือหุ้นแทน  เพื่อปกปิดสัญชาติ และทำให้คนทั่วไปหลงผิดว่า เป็นบริษัทสัญชาติไทย    ซึ่งตามรายงานผลการพิจารณา
คณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร  ข้างต้น ชี้ว่า
ดีแทค เป็น คนต่างด้าวดังนั้น ดีแทค ซึ่งมีเทเลนอร์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจต่างประเทศเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เข้ามาประกอบธุรกิจหรือครอบงำกิจการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมดังกล่าวของประเทศ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม     นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติซึ่งสืบเนื่องมาจากคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรของชาติที่มีค่าและมีใช้อยู่อย่างจำกัดแล้ว ยังจะก่อความเสียหายอย่างมหาศาลแก่ประเทศไทยอีกด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่ดีแทคแจ้งสัดส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าวกับกระทรวงพาณิชย์ไว้เพียงร้อยละ 49 แต่ปรากฏว่า ในความเป็นจริง บริษัทเทเลนอร์ ได้แจ้งข้อมูลการถือหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศนอร์เวย์และประเทศสิงคโปร์ว่า บริษัทเทเลนอร์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจต่างประเทศ ถือหุ้นในดีแทคเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 66.50 ซึ่งเป็นการกระทำผิด ฝ่าฝืนกฎหมายไทยอย่างชัดแจ้ง เพราะเป็นการประกอบธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ และต้องใช้คลื่นความถี่ (Air wave) ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติที่มีค่าสูงยิ่งและมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้สอดคล้องกับรายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร   

 

บริษัทจึงดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดี ดีแทค ซึ่งมีเทเลนอร์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจต่างประเทศเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายไทย ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 4  รวมทั้งกลุ่มบุคคล และกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่สนับสนุนและเอื้อประโยชน์ให้คนต่างด้าวที่เป็นนิติบุคคลให้สามารถทำธุรกิจโทรคมนาคมที่เป็นธุรกิจต้องห้ามของคน    ต่างด้าว  และจะผลักดันให้มีความชัดเจนในการตีความเรื่องสัญชาติของดีแทค ซึ่งหากมีการตีความที่ชัดเจนโดยศาลแล้ว จะทำให้กรณีต่างๆ ในวงการโทรคมนาคมชัดเจนยิ่งขึ้น 

 

การแจ้งความให้มีการดำเนินคดี ดีแทค และกลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เพื่อให้มีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งมิให้มีพฤติกรรมการสนับสนุน และหรือการหลีกเลี่ยงกระบวนการข้อกฎหมายใดๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับข้อห้ามคนต่างด้าวในการประกอบธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของการบังคับใช้ทางกฎหมายต่อไป  นางศุภสรณ์  กล่าวสรุป

News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
         
News PRfocus
News PRfocus
News PRfocus
     
 
บริษัท พีอาร์ โฟกัส จำกัด
เลขที่ 9/134 หมู่บ้านทองสถิตย์ 9 วิลล่า ถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

Offfice : 02-654-7551-2 Fax : 02-654-7553 Email : prfocus@truemail.co.th

Copyright©prfocus 2015 , Allright Reserve.