คอฟฟี่ เวิลด์ เปิดตัวช้อปดีไซน์สไตล์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “ลักเซอรี่ ลีฟวิ่ง รูม” มุ่งเจาะกลุ่มนักดื่มกาแฟ…ระดับพรีเมี่ยม เพิ่มความหรูหราในบรรยากาศที่อบอุ่น เน้นความสะดวก สบายในทุกไลฟ์สไตล์ ทำงาน นัดพบ และพักผ่อน พร้อมเปิดให้บริการสาขาแรก ณ บริเวณชั้น 5 เซ็นทรัล เวิลด์

นายเฟรด มาวาด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น [ไทยแลนด์] จำกัด หรือ จีเอฟเอ เปิดเผยว่า “คอฟฟี่ เวิลด์ ได้มีการปรับดีไซด์ร้านใหม่ เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “ลักเซอรี่ ลีฟวิ่ง รูม” ให้ชัดเจนและเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น  โดยดีไซน์ใหม่นี้จะตกแต่งด้วยโทนสีที่โทนอบอุ่น เน้นความทันสมัยด้วย  สีดำสลับกับสีเทา ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ และเป็นกันเอง ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์นักดื่มกาแฟ ที่ส่วนใหญ่ต้องการร้านกาแฟที่สะดวกสบาย สามารถเป็นได้ทั้ง สถานที่นัดพบ นั่งทำงาน หรือที่พักผ่อนหย่อนใจ โดย คอฟฟี่ เวิลด์ ดีไซน์ใหม่นี้ ได้เริ่มเปิดให้บริการเป็นแห่งแรกที่สาขา เซ็นทรัล เวิลด์ ด้วยเงินลงทุนไปกว่า 3.5 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะขยายร้าน คอฟฟี่ เวิลด์ รูปโฉมใหม่นี้ทั่วโลก ทั้งในรูปแบบการลงทุนของแฟรนไชส์และการลงทุนของบริษัทเอง”

“คอฟฟี่ เวิลด์ ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจาก นักดื่มกาแฟ มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งหลายๆ คนชื่นชอบในรสชาติและคุณภาพเครื่องดื่มและอาหาร ที่ คอฟฟี่ เวิลด์ ได้คัดสรรมาให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งมีความโดนเด่นและแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ  ไม่ว่าจะเป็น ความหลากหลายในบริการ ความหลากหลายของเครื่องดื่ม อาทิ กาแฟ, ช็อกโกแลต, ชา, สมูทตี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มเย็นปั่น หรือ แฟรปเป้ ซึ่งมีประเภทเครื่องดื่มให้บริการหลากหลายมากที่สุดภายในร้าน และ วาฟเฟิล ที่ขึ้นชื่อในความอร่อยสดใหม่ทุกวัน ทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้จัดเป็นเอกลักษณ์หรือผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ (Signature) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนั้น ยังมีบริการ เบเกอรี่, แซนด์วิช และเค้ก ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอีกหลากหลายรสชาติ  จุดเด่นที่สำคัญของ คอฟฟี่เวิลด์ คือการให้บริการเสิร์ฟถึงโต๊ะ หรือที่เรียกว่า เทเบิล เซอร์วิส (Table Service) ซึ่งกลายจุดแข็งที่ทำให้ คอฟฟี่ เวิลด์ มีศักยภาพแข่งขันในตลาดมาเป็นระยะเวลายาวนาน  ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ คอฟฟี่ เวิลด์ ยังได้มีการเพิ่มบริการอาหารอิ่มอร่อยประเภท ไลท์ มีล (light meal) หรือ จานเดียว เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่ลูกค้า โดยในช่วงแรกนั้น    จะนำอาหารประเภท สลัด และ สปาเก็ตตี้” จำนวน 5 รายการ มาให้บริการ ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีก็อาจจะมีการเพิ่มเมนูให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นต่อไป นายเฟรดกล่าวและเพิ่มเติมว่า

สำหรับ ภาพรวมในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทย มั่นใจว่า ธุรกิจกาแฟ ยังเป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย คอฟฟี่ เวิลด์ ถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างผลกำไรให้กับ  จีเอฟเอ  มาอย่างต่อเนื่อง  จึงมีความมั่นใจที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยในระยะยาวต่อไป โดย จีเอฟเอ      ได้เตรียมงบส่งเสริมด้านการตลาดในปีนี้ ไว้ที่ประมาณกว่า 4% เพื่อดำเนินงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทั้งนี้ ตั้งเป้า อัตราการเติบโตไว้ที่ 25 -30 % และมุ่งเน้นการขยายตัวในประเทศไทย ทั้งในรูปแบบของแฟรนไชส์และการลงทุนโดยบริษัทเอง  ซึ่งใน ปัจจุบัน จีเอฟเอ มีแบรนด์ที่ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร รวมแล้วมีจำนวนมากกว่า 100 สาขา มีสัดส่วนในการบริหารงาน แบ่งเป็น จีเอฟเอ 65%  และ แฟรนไชส์ 35 % อย่างไรก็ดี จีเอฟเอ ยังคงมองหาผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่สนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชน์ ที่มีมั่นคงและมีระบบบริหารการจัดการในระดับมือชีพ ซึ่ง จีเอฟเอ คืออีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 

ภาพรวมในส่วนของ จีเอฟเอ ปัจจุบันมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับชั้นนำ จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ คอฟฟี่เวิลด์, เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่, นิวยอร์ก  ฟิฟท์  อเวนิว  เดลี่, พิซซ่า คอร์เนอร์ และร้านโดนัท เบเกอร์ ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและเป็นได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก ความสำเร็จ ที่แต่ละแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ จีเอฟเอ มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจต่อไปในประเทศต่างๆ โดยปีนี้ จีเอฟเอ มีนโยบายที่จะขยายสู่ตลาดระดับโลก เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ ในรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์ ทั้งนี้ ในปัจจุบัน จีเอฟเอ ได้เริ่มขยายสาขาในแถบเอเซียและตะวันออกกลาง จำนวนกว่า 210 สาขาใน   8 ประเทศ -- ไทย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, จีน, บังคลาเทศ, มาเลเซีย, ซูดานและยูเออี นายเฟรดกล่าวสรุปในที่สุด