สื่อมวลชน มีบทบาทและหน้าที่สำคัญท่ามกลางสังคมรอบด้านที่ซับซ้อนมากขึ้น ทำให้การรายงานข่าวสารผ่านสื่อจำเป็นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะสื่อมวลชนจะเป็น    ผู้ถ่ายทอดข้อมูลไปสู่สาธารณชน ซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญต่อการกำหนดความเป็นไปทั้งด้าน เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมโดยรวม  ด้วยเหตุนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยภาคเอกชน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงจัดกิจกรรม  อบรมเชิงปฏิบัติการในโครงการ “นักข่าวพิราบน้อย” มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ นับเป็นรุ่นที่ 12 แล้ว ที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาในภาควิชานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ และสื่อสารมวลชน จากสถาบันศึกษาทั่วประเทศ ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนกว่า 80 คน ได้เข้ามาบ่มเพาะความรู้ ฝึกฝนทักษะ และเรียนรู้จรรยาบรรณผ่านประสบการณ์ตรงจากนักข่าวรุ่นพี่               เป็นระยะเวลา 3 คืน 4 วัน ณ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา จ. ชลบุรี

          “การปฏิบัติงานของสื่อมวลชน ต้องยึดมั่นจรรยาบรรณและจริยธรรมในวิชาชีพ การเปิดโอกาสให้เยาวชน  ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้จากสื่อมวลชนรุ่นพี่ เป็นการฝึกให้รู้จักคิด รู้จักค้นอย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งนี้           ความยุติธรรมและความถูกต้องไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ให้เลือก แต่ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชนต้องเลือกอยู่ข้างความยุติธรรมและความถูกต้องอย่างไม่ลังเล เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้บริโภคข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงที่เป็นจริงและมีคุณภาพ”  ซึ่งเป็นข้อคิดจาก นางสาวเสาวนีย์  ลิมมานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบงาน     ซีเอสอาร์ และหัวหน้าสายงานสื่อสาร  องค์กรและประชาสัมพันธ์การตลาด กลุ่มทรู องค์กรภาคเอกชน  ที่เป็นแรงหนุนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการพิราบน้อยอย่างจริงจัง 

          ตลอดระยะเวลาของการเข้าร่วมโครงการนักข่าวพิราบน้อย  คณะผู้จัดงานฯ  มีการแบ่งกลุ่มของนิสิต นักศึกษาออกเป็น 6  กลุ่ม  ได้แก่  หนังสือพิมพ์นกข่าวขาว  หนังสือพิมพ์บานเย็นเดลี่ หนังสือพิมพ์ Time News หนังสือพิมพ์พัทยาทรรศน์  หนังสือพิมพ์ฟ้าใส  และหนังสือพิมพ์พัทยา เพื่อเพิ่มโอกาสเรียนรู้ในการทำหน้าที่สื่อมวลชน รวมถึงฝึกปฏิบัติการทำสื่อ  สิ่งพิมพ์จริง  โดยมีพี่ๆ สื่อมวลชนระดับมืออาชีพให้คำชี้แนะ  และตัดสินผลงาน ซึ่งหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในโครงการนี้ ก็คือ  หนังสือพิมพ์นกข่าวขาว  

            นายเชษฐพงศ์   แซ่ฉั่ม   มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม (จิม)  หนึ่งในนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ บรรยายถึงความรู้สึกของตนเองว่า “ตั้งใจอย่างมากที่จะได้เข้ามาร่วมฝึกฝนตนเองในโครงการพิราบน้อย      เพราะสนใจในวิชาชีพสื่อมวลชน และรู้สึกดีใจที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามา ซึ่งผมเขียนบทความส่งเข้าประกวด       ในหัวข้อ “ความขัดแย้ง” เพราะช่วงนั้น บ้านเรามีความขัดแย้งทางความคิดรุนแรงมาก ทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความขัดแย้งของคนเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง ผมเชื่อว่าบทความของผมน่าจะตรงใจกรรมการ เพราะตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันครับ ส่วนตัวผมเองอยากเป็นนักข่าว โดยเฉพาะสายข่าวที่สนใจก็คือ ข่าวสิ่งแวดล้อม ซึ่งผมอยากเขียนข่าวประเภทนี้ก็เพื่อจะได้มีส่วนช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติและอยากเห็นสิ่งแวดล้อมดีขึ้นครับ”

            นายพลพัต  สาเลยยกานนต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม ( ไปป์ ) กล่าวว่า  “เมื่อได้เข้ามาร่วม     โครงการพิราบน้อยแล้วรู้สึกประทับใจกับพี่ๆ นักข่าวที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ต่างๆ ให้ ผมสัมผัสได้ว่าพี่ๆ ทั้งหมดต่างทุ่มเทกันอย่างจริงจัง เป็นเสมือนเข็มทิศชีวิตสำหรับตนเอง ที่ให้ประสบการณ์ที่ดีเป็นอันมาก       มีโอกาสได้ไปทำข่าวจริงๆ ทำให้รู้ว่า ความรู้จากที่เราร่ำเรียนมานั้นนำมาช่วยเราได้เยอะ เราต้องแข่งขันกับคน เวลา และกับตัวเราเองในเวลาที่จำกัด ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย  ซึ่งการเป็นนักข่าวนั้นทำให้เรา     ได้เห็นเหตุการณ์จริง และนำไปรายงานข้อมูลให้กับคนทั่วไปได้รับรู้ ก็ถือว่าได้ทำประโยชน์ยิ่งทำให้เราอยากเป็นนักข่าวครับ และผมก็ตั้งใจว่าจะเป็นนักข่าวที่ยึดในจรรยาบรรณวิชาชีพ เพราะผมเชื่อว่ามันคือ เกียรติและศักดิ์ศรีของคนทำข่าวครับ”

          ในท้ายสุด แต่มิใช่สุดท้ายของการจัดโครงการ นักข่าวพิราบน้อย ที่จะยังมีกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีกในทุกๆ ปี บนความมุ่งมั่นของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการก้าวขึ้นบันไดอีกขั้นสำหรับนิสิต นักศึกษาเพื่อเข้าสู่ประตูแห่งความสำเร็จในฐานะสื่อมวลชนมืออาชีพต่อไป