สยามยิปซัม รุกโปรโมท “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท จัดกิจกรรมโรดโชว์ มุ่งเจาะกลุ่มช่างและธุรกิจก่อสร้างระดับชั้นนำทั่วประเทศ มั่นใจจุดเด่น “แกร่งทั่วแผ่น ไม่แอ่นตัว” ด้วยเทคโนโลยี “ชีตร็อกแบรนด์” น้ำหนักเบากว่าแผ่นยิปซัมทั่วไป 20% ติดตั้งได้ง่าย และเร็วกว่าเดิม สามารถตอบสนองความต้องการผู้ประกอบการทั้งช่าง และผู้รับเหมายุคใหม่ นับเป็นการปฏิวัติวงการแผ่นยิปซัม ตั้งเป้ายอดขาย 10 ล้านตรม หรือ 500 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และเติบโตเพิ่มปีละ 25 เปอร์เซ็นต์

มร.ไอแวน โควาริค กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด กล่าวว่า สยามยิปซัม มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้จับมือกับ ยูเอสจี บอรอล พัฒนาแผ่นยิปซัม นวัตกรรมใหม่ แบรนด์ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส”   ที่ใช้เทคโนโลยีของ “ซีตร็อคแบรนด์”  มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านน้ำหนักแผ่นที่เบากว่าเดิม แต่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยได้เปิดตัว “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากวงการธุรกิจก่อสร้างเกินความคาดหมาย  ทั้งนี้ นับเป็นการปฏิวัติวงการแผ่นยิปซัมในประเทศไทยครั้งใหญ่เลยทีเดียว   

นายสรพงษ์ จันทร์นฤกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด เปิดเผยว่า “สยามยิปซัม ได้จับมือกับ ยูเอสจี บอรอล   เปิดตัว “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” โดยเป็นแผ่นยิปซัมมิติใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีของ    ”ชีตร็อกแบรนด์” ซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องน้ำหนักที่เบากว่าแผ่นยิปซัมทั่วไป 20%  ด้วยเทคโนโลยีการผลิต Sag-Defying-Strength™ ทำให้ได้ฝ้าเพดานที่มีความทนทานต่อการแอ่นตัว และมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้การชำรุดของผลิตภัณฑ์ระหว่างขนส่งและติดตั้งลดลง การติดตั้งทำได้เร็วขึ้น ได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างและเจ้าของโครงการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ จากการจัดกิจกรรมโรดโชว์ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” กับกลุ่มเจ้าของโครงการ ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง และสถาปนิก ระดับชั้นนำในจังหวัดหลักๆ อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี ฯลฯ ปรากฏว่า ได้รับกระแสตอบรับดีมาก จึงมีแผนที่จะขยายกิจกรรมโรดโชว์ให้ครอบคลุมกลุ่มช่างยิปซัมทั่วประเทศ จำนวน 21 ครั้ง เพื่อให้เกิดการรับรู้ และได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์จริง “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส”  ส่งผลให้เกิดการทดลองใช้ในอนาคต โดยมั่นใจว่า “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส”  จะเป็นทางเลือกใหม่ และปฎิวัติอุตสาหกรรมตลาดแผ่นยิปซัมให้ก้าวสู่ยุคใหม่

กลุ่มเป้าหมายหลักของ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” คือ ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างรุ่นใหม่ ที่ต้องการวัสดุอุปกรณ์คุณภาพเยี่ยมและตอบสนองความต้องการ เพื่อให้สามารถแข่งขันในสภาวะที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา ไม่ว่าจะเป็น โครงการหมู่บ้านจัดสรร หรือโครงการอาคารสูงต่างๆ  โดยช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลาได้อย่างชัดเจน  นอกจากนี้ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” ยังสามารถตัดประกอบและติดตั้งได้สะดวกรวดเร็ว ลดอัตราการชำรุดและสูญเสียวัสดุ ความโดดเด่นเหล่านี้ จะผลักดันให้ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดวัสดุก่อสร้างอย่างแน่นอน 
 
สำหรับ ตลาดแผ่นยิปซัมในปัจจุบัน มีมูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท โดย สยามยิปซัม มีส่วนแบ่งตลาดมากว่า 55% ในส่วนของ “แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” คาดว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากธุรกิจก่อสร้างมีอัตราขยายตัวสูงขึ้นทุกปี อีกทั้ง ยังผู้ประกอบการยังต้องการแผ่นยิปซัมระดับคุณภาพที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน โดย ”แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ ในส่วนของ ”แผ่นยิปซัมตราช้างพลัส” ตั้งเป้ายอดขาย 10ล้านตรม หรือ 500 ล้านบาท ภายใน 1 ปี  และเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช่องทางการจำหน่าย  จะมีทั้งผู้แทนขายและการตลาดเข้าไปแนะนำผลิตภัณฑ์กับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างโดยตรง และจำหน่ายผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของเอสซีจี ที่มีมากกว่า 600 ราย รวมถึงร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างระดับชั้นนำทั่วประเทศ” นายสรพงษ์ กล่าวในที่สุด