ภาครัฐและภาคเอกชนของญี่ปุ่นร่วมเดินหน้าผลักดันโครงการ “Cool Japan”และ “Visit Japan”
โดยการจัดกิจกรรม 『JAPAN WEEKEND』อินไทยแลนด์
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) มูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมเพลง (PROMIC) คณะกรรมการงานเทศกาลละครนานาชาติโตเกียว กรมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ร่วมผลักดันโครงการเพื่อสร้างโอกาสสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีเชิงลึกของญี่ปุ่น หรือ “Cool Japan Contents” & “Visit Japan” โดยได้จัดให้มีงาน “เจแปน วีคเอนท์” ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
ช่วงปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากนโยบายยกเลิกการขอรับวีซ่าตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวระยะสั้น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ในขณะที่กระแสนิยมแฟชั่นและวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ จากญี่ปุ่น อาทิบทเพลงและดนตรี ละคร เป็นต้น ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2557 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนมากถึง 430,000 คน คิดเป็นร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า จากข้อมูลนี้สรุปได้ว่าปัจจุบันชาวไทยมีโอกาสเข้ามาศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประเทศญี่ปุ่นได้มากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทางบทละคร การ์ตูน บทเพลงและดนตรีและทางวัฒนธรรมป๊อบคณะกรรมการฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่านักท่องเที่ยวชาวไทยจะมีโอกาสสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอันตระการตาและสามารถศึกษาวัฒนธรรมต่าง ๆ ของญี่ปุ่นได้มากขึ้น จากแนวคิด “Cool Japan” โดยการผลักดันนโยบาย “Visit Japan” ผ่านกิจกรรม『JAPAN WEEKEND』 ในครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นโอกาสร่วมสร้างความสัมพันธ์อันดีเชิงธุรกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
(การผลักดันและให้ความส าคัญแก่เนื้อหาสาระของเนื้อเพลงญี่ปุ่น) Music Contents Platform
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และมูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมเพลง (PROMIC) จัดให้มีกิจกรรม “J POP Signature in Bangkok 2014” โดยการจัด Live Showcase พร้อมกับการเปิดเวทีเจรจาการค้าเพื่อสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การท่องเที่ยวเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในครั้งนี้ เนื่องจากผลสำรวจความนิยมต่อศิลปินที่ชื่นชอบจากแบบ สอบถามต่อคนไทยจำนวนประมาณ 3,000 คน เพื่อจัดกิจกรรม Live Showcase เมื่อเดือนกันยายนปีนี้พบว่าศิลปินญี่ปุ่น (หมวดเพลงการ์ตูน) ที่คนไทยชื่นชอบและต้องการให้เชิญมาแสดงคือ LiSA และ Dj Kazu ผู้ซึ่งบุกเบิกวงการเพลงการ์ตูนแนวใหม่ที่ทางเราได้เชิญมาแสดงสดในเมืองไทย ณ โอกาสนี้
นางสาวมิยาโกะ ฮามาโนะ รองประธานบริหารองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า “การที่ประเทศไทยได้มีการเริ่มแพร่ภาพออกอากาศรายการต่าง ๆ ทางโทรทัศน์ด้วยระบบดิจิตอล ตั้งแต่ปีนี้นั้น ส่งผลให้ชาวไทยมีโอกาสได้รับฟังเพลงและดนตรี และข่าวสารด้านต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้จะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องแขนงต่างๆ สามารถขยายตัวได้ในวงกว้างโดยมีจำกัดอยู่เพียงแค่การทำกิจกรรมในครั้งเดียว และจะสนับสนุนเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง”
(เผยแพร่เสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นโดยการแพร่ภาพ)
คณะกรรมการงานเทศกาลละครนานาชาติโตเกียว จัดให้มีกิจกรรมเพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยเน้นในส่วนเนื้อหาของบทละคร โดยการจัดงานมหกรรม “J Series Festival” ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 นำเสนอเรื่องสร้างตามบทละคร การ์ตูน เพลงและดนตรี เพื่อเพิ่มกระแสนิยม ในครั้งนี้ มีศิลปินญี่ปุ่นผู้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมากมายเข้าร่วมทำกิจกรรม ได้แก่ ฮิเดอากิ ทาคิซาว่า (สัมภาษณ์), ฮารุนะ คาวากุจิ ดาราซึ่งมีกระแสนิยมร้อนแรงในปัจจุบัน จะขึ้นแสดงทอล์คโชว์, การแสดงสดจากวง Idol Renaissance ซึ่งมีสมาชิกร่วมวงทั้งหมด 7 คน และวง Bless 4 (Bless Four) หรือวง 4 พี่น้อง ส่วนศิลปินไทยที่มาร่วมท ากิจกรรม ได้แก่ โอปอล นักแสดงและ ดีเจ อ๋อง นักจัดรายการวิทยุระดับเซเลป
นายฮาจิเมะ ชิเงมุระ รองประธานกรรมการบริษัทในเครือ Nippon Broadcasting Holdings ผู้ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดงานร่วมในครั้งนี้กล่าวว่า “หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแบรนด์ญี่ปุ่นจะได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากการเสริมสร้างความเข้าใจให้เกิดมากขึ้นต่อวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของญี่ปุ่นโดยการแพร่ภาพเนื้อหาสาระ (Contents) ที่น่าสนใจต่าง ๆ ของญี่ปุ่น”
(เผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่น่าสนใจในหลายแง่มุม)
กรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นและองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) จัดให้มีงาน “Visit Japan FIT Travel Fair 2014 Winter” ขึ้น โดยมีการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเพื่อการท่องเที่ยวทั้งที่เป็นการท่องเที่ยวด้วยตัวเองและการจัดนิทรรศการแสดงสินค้าของญี่ปุ่นตามบูธต่าง ๆ จากหน่วยงานท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น สมาคมท่องเที่ยว และบริษัทท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังจัดให้มีการสัมมนาและเวทีเจรจาทางการค้าระหว่าง สื่อแขนงต่าง ๆ บริษัทท่องเที่ยวของประเทศไทย และองค์กรการท่องเที่ยวต่าง ๆ จากประเทศญี่ปุ่น
นายโนนิฮิโกะ คุฮาระ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมและพัฒนาแบรนด์จากต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น กล่าวว่า“ในปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนตรงตามเป้าหมายซึ่งวางไว้ที่ราว 10 ล้านคน สำหรับในปีนี้กรมฯ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 20 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยได้มากถึงกว่า 4 แสน 3 หมื่นคน เฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นอัตราการเพิ่มที่มีระดับสูงซึ่งมีความใกล้เคียงกับสถิติในปี 2556 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 4 แสน 5 หมื่นคน ทั้งนี้ เนื่องจากนโยบายการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวระยะสั้น และการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินที่เชื่อมระหว่างประเทศไทยและท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับการเพิ่มเส้นทางการบินใหม่ของสายการบินโลว์คอสท์ จึงทำให้การเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นไปได้โดยสะดวกสบายยิ่งขึ้น คณะกรรมการฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านทั้งหลายจะได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและสัมผัสกับบรรยากาศในแต่ละฤดูกาลและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพในแต่ละภูมิภาค” นอกจากนี้เจโทรและ กรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น และ JNTO ยังได้ร่วมมือกันจัดให้มีงาน “FIT Fair” ขึ้น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นผ่านทางการ์ตูน เพื่อให้แฟนๆการ์ตูน ได้สัมผัสโดยตรงที่ Live Showcase และยังเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวแนวใหม่ ได้แก่ “การท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม” (Industrial Tourism) อีกด้วย
นางสาวมิยาโกะ ฮามาโนะ รองประธานบริหารของเจโทร กล่าวว่า“ไม่เพียงแต่ต้องการเผยแพร่และให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูลเพื่อส่งออกการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังต้องการสำรวจความสนใจของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางในการนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ เพื่อท่องเที่ยวเชิงศึกษาอุตสาหกรรมภายในไปด้วยในขณะเดียวกัน