“นาฬิกา” เครื่องบอกเวลา ได้กลายเป็นแอกเซสซอรี่ หรือเครื่องประดับชิ้นสำคัญของผู้มีไลฟ์สไตล์ในแวดวงสังคมเกือบทุกระดับ ใต้ฟ้าเมืองไทยมีบุคคลที่ถูกยกย่องให้เป็น “กูรู นาฬิกา” อยู่เป็นจำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้น ก็คือ คุณต้น-ชญาศักดิ์ ปิยะมาวดี” ผู้ช่วยรองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จากความหลงใหลในศาสตร์และศิลป์ของเครื่องบอกเวลาจึงนำมาสู่การสะสมนาฬิกาอย่างจริงจัง โดยมีแนวคิดสำหรับการเลือกนาฬิกาบนหลักพื้นฐานเดียวกันไม่ว่าจะถูกหรือแพง
คุณต้น-ชญาศักดิ์ พูดให้ฟังถึงแนวคิดในการเลือกนาฬิกาของเขาอย่างน่าสนใจว่า “ผมยึดหลักสาม ช. ครับ นั่นคือ “ชอบ-ใช่-ใช้” เริ่มจากที่ “ชอบ” คือ “ต้องถูกใจ” ไม่ว่าจะเห็นจากในรูปหรือตัวจริง ต่อมาก็คือ “ใช่” ในที่นี้ก็คือลองใส่แล้วต้องเหมาะกับข้อมือเป็นอันดับแรก เงื่อนไขถัดมาก็คงต้องเข้ากับไลฟ์สไตล์และการแต่งตัวของเราด้วยเช่นกัน และสุดท้ายคือ “ใช้” เมื่อซื้อมาแล้ว จะมีโอกาสได้หยิบมา “ใส่” หรือเปล่า ดังนั้นนาฬิกาที่ผมสะสม จึงถูกเลือกตามความเหมาะสมขององค์ประกอบรวมทั้งหมด แต่แน่นอนที่สุดเรื่องที่ผมต้องคำนึงเป็นพิเศษก็คือ ตำนานของแบรนด์นั้นๆ ความคลาสสิกและความเป็นอมตะของนาฬิกาในแต่ละรุ่น แต่ละเรือน

ถ้าถามว่าให้ความสนใจหรือสะสมนาฬิกาแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ ผมคงกล้าตอบอย่างเต็มปากว่า “SEIKO” [ไซโก] เพราะครบตามสูตรสาม ช. แต่ที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ รุ่น ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] ซึ่งถือเป็นรุ่นสร้างชื่อให้กับแบรนด์มายาวนานกว่า 13 ปี โดย SEIKO [ไซโก] ไม่หยุดที่จะพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมและดีไซน์ใหม่ๆ มีให้เลือกสะสมหลากหลายเวอร์ชั่น จนเกิดเป็น “มอนส์เตอร์ คอลเลคชั่น” ที่คงเอกลักษณ์ทั้งด้านความแข็งแกร่งทนทาน ด้านการออกแบบที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกไม่ยุ่งยาก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องมนต์เสน่ห์ของ ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] หากจะให้อธิบายว่าต้องมนต์อย่างไร คงจะไม่ใช่แค่เพียงรูปทรง รูปลักษณ์ หน้าปัด เข็มบอกเวลา เครื่องกลไก ระบบการกันน้ำและอะไรที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาโดยตรง แต่ต้องย้อนกลับไปที่ว่าถ้าให้เลือกนาฬิกาหนึ่งเรือนที่บ่งบอกความเป็น SEIKO [ไซโก] สำหรับผมคำตอบ คือ ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] นั่นเอง โดยเปรียบเป็นไอคอนนิคของนาฬิกาไดร์ฟเวอร์ยุคปัจจุบัน และมีแฟนคลับติดตามอย่างคลั่งไคล้ ที่สำคัญอยู่ที่การตามเก็บสะสมแต่ละรุ่นของ “มอนส์เตอร์” ที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายในแบบจำนวนจำกัด (Limited Edition) หรือจำกัดจำนวน (Limited Production) ให้ครบ เพราะรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาในแต่ละรุ่น จะมีลักษณะเฉพาะตามคอนเซ็ปต์และมีจำนวนไม่มาก ในขณะที่ราคานั้นนักสะสมทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ก็สามารถเข้าถึงและจับต้องได้  จึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการในตลาดจึงมีสูงมากกว่าจำนวนการผลิต หากพูดถึงนาฬิกาไดร์ฟเวอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการสะสม คงต้องยกให้เจ้า ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] นี่แหละครับ”

คงไม่สายเกินไปสำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกา หรือ เครื่องบอกเวลาเท่ๆ ที่มีตำนานเรื่องเล่าและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ทั้งความคุ้มค่าสำหรับการใช้งานและคุณค่าในการสะสม ที่คนในแวดวงนาฬิกาทั้งในและต่างประเทศให้การยอมรับ
เพราะในวันที่ 12 เดือนธันวาคมนี้ ทางแบรนด์จะมีการเปิดตัวอสูรแห่งท้องทะเลลึก รุ่นที่ 10 “SEIKO Monster The Sun” [ไซโก มอนส์เตอร์ เดอะ ซัน] พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้นักสะสมได้ยลโฉมและครอบครองกันอีกครั้ง ผมว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่ต้องสะสม ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะดีไซน์ลายพระอาทิตย์ที่โดดเด่นกลางหน้าปัด ตัดกับตัวเรือนและสายสีดำที่มาในลุคเข้มขรึมดุดัน พร้อมกันน้ำลึก 200 เมตร นิยามสั้นๆ ว่า “หล่อ ล่ำ ดำ ลึก เท่ เนี๊ยบ เฉียบ คม” แบบไม่ทิ้งลายเจ้าแห่งท้องทะเล ในแบบฉบับของ ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] หากใครกำลังมองหานาฬิกาสปอร์ตเพื่อใช้งานหรือสะสม ‘SEIKO Monster’ [ไซโก มอนส์เตอร์] น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับโจทย์สาม ช. ชอบ-ใช่-ใช้ สำหรับใครๆ อีกหลายคน เชื่อผมเถอะ!!!”