ทรูออนไลน์ ประกาศรักษาแชมป์ผู้นำตลาดบรอดแบนด์ไทย โชว์ตัวเลขผลประกอบการโดดเด่น ส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกรุงเทพฯและปริมณฑล เดินหน้าเพิ่มพื้นที่บริการ อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต ถึง 36 จังหวัดในปีนี้
ทรูออนไลน์ ชูพันธกิจผู้ให้บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตพื้นฐานอันดับ 1 ของไทย ผสมผสานบรอดแบนด์ ดาต้า และเสียง เพื่อให้บริการสื่อสารและโซลูชั่น พร้อมเผยความสำเร็จปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ธุรกิจบรอดแบนด์สูงถึง 10.7 พันล้านบาท เพิ่มลูกค้าใหม่อีก 160,000 ราย รวมเป็น 1.34 ล้านราย สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในกรุงเทพฯและปริมณฑลถึง 65% ประกาศทิศทางปี 2555 เดินหน้าย้ำภาพผู้นำนวัตกรรม เตรียมเพิ่มความเร็วบริการบรอดแบนด์สูงสุดในไทยถึง 200 Mbps ขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ถึง 36 จังหวัด ตั้งเป้าลูกค้าเป็น 1.5 ล้านราย ภายในกลางปีนี้
นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ทรูออนไลน์ บมจ. ทรู
คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ ประสบความสำเร็จ มียอดรายได้สูงถึง 10.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 มีส่วนแบ่งรายได้มากสุดในประเทศ อันเกิดจากการนำนวัตกรรมเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ผ่านโครงข่ายเคเบิล มาให้บริการแก่ลูกค้าในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มั่นใจบรรลุพันธกิจทรูออนไลน์ผู้ให้บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตอันดับ 1 ของไทย ที่ผสมผสานบรอดแบนด์ ดาต้า และเสียง เพื่อให้บริการสื่อสารและโซลูชั่นต่อจากปีที่ผ่านมา โดยเตรียมรุกตลาดบรอดแบนด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายโครงข่ายบริการให้เข้าถึง 3 ล้านครัวเรือนครอบคลุม 36 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในไตรมาส 2 ก่อนจะก้าวสู่กว่า 60 จังหวัดในปีหน้า พร้อมประกาศศักดาผู้นำนวัตกรรม เตรียมเพิ่มความเร็วการใช้งานบรอดแบนด์ขึ้นอีกเท่าตัว จาก 100 Mbps สู่สูงสุด 200 Mbps เป็นรายแรกของประเทศ รองรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ผู้ชื่นชอบการท่องเน็ตเร็วแรง ทันใจ ไร้ขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (ไวไฟ) ทรูออนไลน์ จะติดตั้งสัญญาณ ULTRA WiFi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 100 Mbps กว่า 1,000 ตึก ทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม โรงแรม โรงพยาบาล ธนาคาร เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการตอกย้ำภาพผู้นำด้านคุณภาพบริการ นวัตกรรม และเทคโนโลยีของทรูออนไลน์ให้มีความชัดเจน และโดดเด่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทรูออนไลน์ ยังสานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่ต้องการเป็นผู้ให้บริการสมบูรณ์ทุกรูปแบบการสื่อสาร ทั้งด้านเสียงผ่านโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้านเคเบิ้ลทีวี มัลติมีเดีย
บรอดแบนด์ และด้านคอนเทนต์ โดยจะคัดสรรแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์หลากหลาย ให้ลูกค้าได้เลือกใช้อย่างตรงใจ รวมทั้งนำเสนอบริการเสริมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น WiFi, TrueNetTalk (VoIP), เล่นเกมออนไลน์, ดูบอลพรีเมียร์ลีก, ดูทีวี ออน ดีมานด์ รวมไปถึงบริการโหลดเพลง MP3 เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์การรุกตลาดดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้ทรูออนไลน์เป็นผู้นำตลาดต่อไปอีกในระยะยาว
นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริการบรอดแบนด์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรูออนไลน์ เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ยกระดับศักยภาพบริการบรอดแบนด์ให้ความเร็วเริ่มต้นที่ 7 Mbps สำหรับตลาดทั่วไป และสูงสุด 100 Mbps สำหรับตลาดพรีเมี่ยม ซึ่งส่งผลให้ยอดค่าใช้บริการเฉลี่ยต่อหัวมากกว่า 700 บาทต่อเดือน โดยทรูออนไลน์มีสิทธิพิเศษหลากหลายสำหรับลูกค้าเลือกสรรตามต้องการ อาทิ ผู้สมัครใช้บริการทุกแพ็กเกจ รับฟรีทันที ไวไฟ เร้าท์เตอร์ หรือแพ็กเกจพิเศษ “คุ้มเป็นคู่” เล่นเน็ตแรง 9 Mbps และดูทรูวิชั่นส์ 74 ช่อง เพียง 999 บาทต่อเดือน ทำให้มีผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิเพิ่ม 160,000 ราย มียอดรวมทั้งสิ้น 1.34 ล้านราย ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 65 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ ในส่วนของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (ไวไฟ) ทรูออนไลน์ ยังคงเป็นผู้นำตลาดรายแรกที่สร้างสรรค์ความเร็วสูงสุด และครอบคลุมพื้นที่มากสุด ด้วยจุดเชื่อมต่อกว่า 100,000 จุด ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งปรับมาตรฐานไวไฟใหม่เป็นความเร็วสูงสุด 8 Mbps พร้อมเปิดตัว ULTRA WiFi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 100 Mbps อีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดผู้ใช้บริการรวมกว่า 900,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้งานสมาร์ทโฟน
“ทรูออนไลน์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการบรอดแบนด์ทั้งแบบมีสายและไร้สายอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทุกกลุ่ม ให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างทัดเทียมกัน ตอบโจทย์ชีวิตออนไลน์สุดล้ำอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ตั้งแต่ 7 – 100 Mbps ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถรับชมสาระ และความบันเทิงสดๆ อย่างสนุกสมจริง ก้าวทันทุกกระแสโลก รองรับการใช้งานที่หลากหลายในเวลาเดียวกันแบบไม่มีสะดุด และยกระดับตลาดบรอดแบนด์ไทยให้เท่าเทียมมาตรฐานโลก พร้อมมั่นใจว่าด้วยคุณภาพโครงข่าย และบริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมงของทรูออนไลน์ จะทำให้ลูกค้าผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจสูงสุด” นายเจริญ กล่าวสรุป